มือถือ หรือ สมาร์ทโฟน ในปัจจุบันนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ เป็นอุปกรณ์สื่อสาร ใช้เล่น Social Media, ไลฟ์สด, เล่นเกม รวมไปถึงเป็นอุปกรณ์ทางการเงินยุคใหม่ เช่น แอปธนาคาร และ Wallet ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าในท้องตลาดก็มีมือถือหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับสเปกต่าง ๆ ที่ประกอบภายในเครื่อง โดยเริ่มตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าจะเลือกมือถือสเปกแบบไหน หรือราคาเท่าไรดี จึงจะตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของตนเอง อย่างไรก็ตามมีผู้คนมากมายที่ต้องการซื้อมือถือที่มีประสิทธิภาพดีในราคาไม่แพง ส่งผลให้มือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 ได้รับความนิยมสูง เพราะมีฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน ดังนั้น วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีการเลือกมือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 อีกทั้งยังมาพร้อมกับ 10 อันดับ มือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 อย่าง OPPO, HUAWEI, SAMSUNG, Xiaomi ฯลฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน
วิธีการเลือก โทรศัพท์ 2022 ราคาไม่เกิน 6,000 ถึงแม้ว่าภายนอกของโทรศัพท์มือถือนั้นจะมีความคล้ายคลึงกัน หรือแม้แต่จะทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android เหมือน ๆ กัน ทว่า องค์ประกอบภายในแต่ละเครื่องก็มีความแตกต่างที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราสามารถเลือก โทรศัพท์ 2022 ราคาไม่เกิน 6,000 ได้ด้วยหัวข้อต่อไปนี้
– หน่วยประมวลผล (CPU) คุณควรพิจารณา CPU จาก 3 ปัจจัย ได้แก่ ความเร็ว มีหน่วยเป็น GHz ยิ่งเลขมากมือถือยิ่งเร็วมากต่อมาคือจำนวน Core ที่ในปัจจุบันนิยมแบบ Octa Core หรือ 8 Core ซึ่งยิ่งมากยิ่งทำงานที่ซับซ้อนได้ดี และสุดท้ายคือยี่ห้อของ CPU ที่มีอยู่หลัก ๆ 2 แบบ คือ Qualcomm Snapdragon กับ Mediatek โดยถ้าเปรียบเทียบสเปกที่คล้ายกันแล้ว Mediatek จะมีจุดเด่นในเรื่องการประมวลผลเกม ในขณะที่ Qualcomm จะเด่นในด้านการประหยัดพลังงาน
– กล้องหลังและกล้องหน้า สำหรับกล้องหลังของมือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 นั้นจะมีกล้องหลังแบบ 3 เลนส์ หรือ 4 เลนส์ ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละเครื่อง โดยมากนิยมใช้เลนส์กล้องหลัก เลนส์ภาพถ่ายมุมกว้าง เลนส์มาโคร และเลนส์วัดระยะลึก ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีพิกเซลที่ต่างกัน ยิ่งเลขมากยิ่งถ่ายภาพได้ชัด รวมถึงการทำงานควบคู่กับโหมดการถ่ายภาพที่แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ ในขณะที่กล้องหน้าในมือถือแต่ละยี่ห้อ นอกจากตำแหน่งรูกล้องหน้าแล้วจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก และมักจะชูจุดเด่นในด้านการประมวลผลภาพแทน
– แรมและหน่วยความจำภายใน (RAM & ROM) แรม (RAM) เป็นหน่วยความจำชั่วคราว ทำหน้าที่เก็บข้อมูลแอปที่เรากำลังใช้งานหรือที่เปิดทิ้งไว้ ซึ่งยิ่งแรมมาก จะทำให้แอปทำงานได้ไหลลื่นและเปิดได้หลายแอปพร้อมกัน สะดวกต่อการใช้งาน ลดปัญหาอาการค้างและกระตุกได้ ในขณะที่หน่วยความจำภายใน (ROM) ทำหน้าที่เป็นที่เก็บข้อมูลแอปทุกตัวภายในเครื่อง รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เช่น ภาพ วิดีโอ และไฟล์ระบบ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเพิ่มพื้นที่ผ่านการใช้ Micro SD card ได้ แต่ความเร็วจะด้อยกว่า ROM มาก ดังนั้น ควรเลือก ROM ที่มีขนาดใหญ่จะดีกว่า

1. Realme C25Y ราคา 5,999 บาท
โทรศัพท์ 2022 ตัวท็อปในรุ่นเริ่มต้น สแกนนิ้วด้านหลัง รองรับการชาร์จเร็ว 18W สำหรับมือถือราคาย่อมเยาจาก realme รุ่นนี้ มาพร้อมกับชิปเซตที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูอย่าง Unisoc T618 แต่ประสิทธิภาพต้องบอกเลยว่าแรงกว่า Snapdragon 662 เสียอีก ในเรื่องของการเล่นเกมกราฟิกระดับกลางจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนหน้าจอมีขนาด
6.5″ HD+ หากใช้งานทั่วไปความละเอียดนี้ก็ยังถือว่าทำได้ดี อีกทั้งยังมาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนนิ้วมือด้านหลัง ซึ่งรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักไม่มีมาให้แล้ว เสริมด้วยการรองรับชาร์จเร็ว 18W ไม่ต้องรอนานเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็มีจุดพิจารณาตรงที่พอร์ตชาร์จของมือถือรุ่นนี้ยังเป็น Micro USB อยู่ การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นจึงอาจไม่สะดวกมาก

2. Vivo Y21 ราคา 5,699 บาท
หน้าจอ 6.51″ HD+ กล้องหน้าโหมด Face Beauty ตัวเครื่องบาง จุดเด่นของมือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 บาท รุ่นนี้ อยู่ที่ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 182 กรัม ช่วยให้พกพาได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอ 6.51″ HD+ ขนาดมาตรฐาน ดูคอนเทนต์ได้เต็มอิ่มจุใจ ส่วนระบบปลอดล็อกเครื่องนั้นจะใช้การสแกน
ลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Face Wake ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับโหมด Face Beauty ให้คุณได้ตกแต่งภาพเซลฟีของคุณด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ อย่างสวยงามค่ะ

3. HUAWEI Y7a ราคา 5,999 บาท
Quad Camera พร้อม AI หน้าจอใหญ่ แบตจุใจ มีระบบชาร์จไวโทรศัพท์ในกลุ่ม Y Series มาพร้อมกับกล้องหลักมากถึง 4 ตัว ได้แก่ เลนส์หลัก 48 MP, เลนส์ภาพมุมกว้าง 8 MP, เลนส์มาโคร 2 MP และเลนส์วัดระยะลึกอีก 2 MP ทั้งยังมี AI อัจฉริยะ ช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้มีสีสันสวยงาม หน้าจอแบบ LCD IPS สีสันสวยสมจริง ใหญ่มากถึง 6.67 นิ้ว เพลิดเพลินได้ทุกคอนเทนต์ และแบตเตอรี่ 5,000 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จไว 22.5 วัตต์ ชาร์จ 10 นาทีดูหนังได้ถึง 2 ชั่วโมง

4. Motorola Moto G30 ราคา 5,999 บาท
กล้องหลัง 64 ล้าน พร้อมโหมดถ่ายภาพแปลกใหม่ สเปกจัดเต็ม Moto G30 เปิดตัวด้วยกล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายยี่ห้อในกลุ่มราคาเดียวกัน มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพที่สนุกและแปลกใหม่ เช่นภาพถ่ายเคลื่อนไหว ที่ให้ส่วนหนึ่งของภาพมีการเคลื่อนไหวแล้วปล่อยส่วนอื่นหยุดนิ่ง หรือการซูมแบบดิจิทัลโดยไม่สูญเสียรายละเอียดภาพ นอกจากนี้ สเปกยังจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น CPU Snapdragon 662, หน้าจอ 6.5 นิ้ว, Refresh Rate 90 Hz, รองรับการชาร์จไว 20 วัตต์, รองรับ NFC และกันละอองน้ำได้อีกด้วย

5. TECNO POVA2 ราคา 5,699 บาท
ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ หน้าจอใหญ่ 6.9″ แบตฯอึด 7,000mAh สำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหามือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 บาท เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่จุใจ 6.9″ FHD+ มุมมองกว้าง เห็นศัตรูชัดขึ้น พ่วงด้วยชิปเซต MediaTek G85 และ RAM 8GB สามารถเล่น Free Fire, ROV หรือ PUBG ด้วยกราฟิกระดับกลางได้ไม่มีกระตุก และที่พิเศษยิ่งกว่าก็คือแบตเตอรี่ที่ให้มาแบบจัดเต็มถึง 7,000mAh ที่ทางแบรนด์ระบุว่าสามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้นานถึง 8.65 ชั่วโมง เลยทีเดียว Ufabet เว็บหลัก