ในปัจจุบัน มือถือ 5G 2022 ที่รองรับ 5G เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ จากปีก่อน ๆ ที่มีเฉพาะในรุ่นเรือธง แต่ในตอนนี้ก็มีรุ่นระดับกลางหรือรุ่นราคาหลักพันเป็นทางเลือกให้สำหรับคนงบไม่เยอะด้วย โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำ มือถือ 5G 2022 ที่เป็นรุ่นเด่น ๆ น่าสนใจกัน ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย
ที่มา https://www.thaimobilecenter.com/content/lastest-5g-phones-under-8000-baht-in-thailand-2021.asp
1. Samsung Galaxy A22 5G : 8,299 บาท
มือถือ 5G 2022 รุ่นล่าสุดจากตระกูลซัมซุง A (Galaxy A Series) ที่แม้จะมีราคาเกินที่
กำหนดไว้เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 700 5G พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W Fast Charging มีหน้าจอทรงหยดน้ำ Infinity-V Display ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ และ RAM 8GB + ROM 128GB รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
– ตัวเครื่องมีขนาด 167.2×76.4×9.0 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 203 กรัม
– หน้าจอแสดงผล Infinity-U Display (TFT) ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720×1600 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Dimensity 700
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1TB
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 15W Fast Charging
– ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
– พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
ที่มา https://www.thaimobilecenter.com/content/lastest-5g-phones-under-8000-baht-in-thailand-2021.asp
2. Vivo Y52 5G : 7,999 บาท มือถือ 5G 2022
น้องใหม่จากตระกูล Y-Series รองรับ 5G ด้วยชิปเซ็ต Dimensity 700 จับคู่กับ RAM 4GB + ROM 128GB มีหน้าจอไร้ขอบ 6.58 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W Fast Charging และกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รวมถึงลำโพงเสียงแบบ Super Linear Speaker 1612 ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสด้านเสียงได้ดียิ่งขึ้น
– ตัวเครื่องมีขนาด 163.95×75.30×8.50 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 193 กรัม
– หน้าจอแสดงผล Halo Fullview Display (IPS LCD) ขนาด 6.58 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2400 พิกเซล : 400 ppi) มีสัดส่วนการแสดงผลที่ 90.6% พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 60Hz และครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Dimensity 700
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G57 MC2
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 128GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.0 รองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty, Super Night Selfie และฟังก์ชัน Softlight Band
– แบตเอตรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 18W Fast Charging
– ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Fingerprint)
– ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake)
– รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G NR และ 4G LTE
– รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4 / 5.0 GHz) และ Bluetooth 5.1
ที่มา https://www.thaimobilecenter.com/content/lastest-5g-phones-under-8000-baht-in-thailand-2021.asp
3. Moto G51 5G : 7,599 บาท
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นต่อยอดในซีรีส์ G ที่มาพร้อมการดีไซน์โฉมใหม่ พรีเมียมกว่าเดิมด้วยหน้าจอ Max Vision แบบไร้ขอบ ไร้รอยบากขนาด 6.8 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz มีกล้องหน้าฝังบนจอ 13MP ผสานกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera)โดยมีกล้องตัวหลัก 50MP พร้อมแบตเตอรี่ 5000 mAh และประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 480+ จับคู่ RAM 4GB + ROM 128GB บนระบบปฏิบัติการ Android 11
– ตัวเครื่องมีขนาด 170.47×76.54×9.13 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 208 กรัม
– หน้าจอแสดงผล Max Vision Display (LcD) ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2400 พิกเซล) รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 480+ 5G
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 512GB
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.2
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
– ระบบปฏิบัติการ Android 11
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
– ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
– คุณสมบัติป้องกันน้ำ-ฝุ่นมาตรฐาน IP52
– รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G NR / 4G LTE Cat.18
– รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4 + 5 GHz), Bluetooth 5.1 และ NFC
– รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
ที่มา https://www.thaimobilecenter.com/content/lastest-5g-phones-under-8000-baht-in-thailand-2021.asp
4. POCO M4 Pro 5G : 7,499 บาท
มือถือ 5G รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มากับชิปเซ็ต Dimensity 810 จับคู่ RAM 6GB + ROM 128GB มีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging บนการดีไซน์ใหม่ ด้วยแถบกล้องหลังสี่เหลี่ยม
ในแนวนอน ทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่ กล้องตัวหลัก 50MP พร้อมกล้อง Ultra-Wide 8MP สำหร้บด้านหน้าเป็นจอเจาะรูกล้องแบบ 90Hz DotDisplay (LCD) ขนาด 6.6 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz พร้อมฟีเจอร์ DynamicSwitch Display ในการปรับค่า Refresh Rate ให้เหมาะกับคอนเทนต์นั้นๆ โดยอัตโนมัติ และลำโพงเสียง Stereo แบบคู่ รวมมอเตอร์ Flagship X-axis linear Motor ที่ช่วยให้การสั่นสะเทือนขณะเล่นเกมดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
– ตัวเครื่องมีขนาด 163.56×75.78×8.75 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 195 กรัม
– หน้าจอแสดงผล 90Hz DotDisplay ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2400 พิกเซล) รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz พร้อมฟีเจอร์ DynamicSwitch Display ในการปรับค่า Refresh Rate ให้เหมาะกับคอนเทนต์นั้นๆ โดยอัตโนมัติ และค่า Touch Sampling Rate ระดับ 240Hz
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Dimensity 810
– หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 6GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.2 ขนาด 128GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 1TB
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมี f2.45
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging
– ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
– ระบบสแกนใบหน้า (AI Face)
ที่มา https://www.thaimobilecenter.com/content/lastest-5g-phones-under-8000-baht-in-thailand-2021.asp
5. Redmi Note 10 5G : 6,799 บาท
สมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัดรุ่นใหม่จากทาง Xiaomi ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 700 รองรับการเชื่อมต่อ 5G พร้อมใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging มีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ และมีกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
– ตัวเครื่องมีขนาด 161.81×75.34×8.92 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 190 กรัม
– หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2400 พิกเซล) มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz และ Ambient light sensors แบบ 360 องศา
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Dimensity 700
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G57 MC2
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) 128GB
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอแบบ In-Display Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.0)
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 18W Fast Charging
– ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Fingerprint)
– รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (Dual-Band), Bluetooth 5.1 และ NFC
สรุป
เรียกได้ว่าทุกรุ่นเป็นรุ่นเด่นจากแต่ละแบรนด์และมีฟีเจอร์เด่นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใดมากที่สุด ทั้งในด้านการดีไซน์ว่าสวยถูกใจขนาดไหน และฟีเจอร์ด้านในสามารถพร้อมตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้น แล้วเกิดความพึงพอใจ ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ Ufabet เว็บหลัก
Credit By www.mixmobilegames.com www.nheetiewstours.com www.goldengooseshoeser.com www.aaviagar.com www.takipcisanati.com